สิ้นสุดการรอคอย 30 ปีที่รอคอย ของลิเวอร์พูล

Jaedsada Chaisorn
2 min readOct 14, 2020

--

เคยเขียนไว้เล่นๆตั้งแต่ ได้แชมป์ใหม่ๆ เลยมาลงในนี้ดูหน่อยย 555

บันทึกไว้ในความทรงจำว่า เราทำได้แล้ววว หลังจากเริ่ม ฤดูกาลใหม่เราก็จะพูดถึงฤดูกาลที่แล้วว

คงต้องเริ่ม ด้วยคำว่า ปีนี้ผมไม่ว่าวค่าบบ ~

ในฐานะที่เป็น แฟนบอลลิเวอร์พูลมา ผมขอยอมรับว่า ขนาดปีนี้ตัวผมเองยังไม่มั่นใจว่าทีมที่เชียร์จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก ที่รอกันมาอย่างยาวนาน

ย้อนไทม์ไลน์เส้นทางการที่ใกล้จะได้แชมป์ แต่ไม่ได้กันหน่อย

  • ฤดูกาล 2008/09 ลิเวอร์พูล จากการทำงานของ ราฟา เบนิเตซ

นับว่าทุกอย่างมาดีมา ลิเวอร์พูลทำแต้มไปได้ถึง 86 คะแนนเลยทีเดียว แพ้เพียงแค่สองนัดเท่านั้น ทำประตูได้มากกว่า ทีมแชมป์ อย่าง แมนฯ ยูไนเต็ด สะอีก ทว่าดันหนักเสมอเยอะไปหน่อย โดยเสมอถึง 11 ครั้ง แบ่งในบ้านถึง 7 เกม สุดท้ายเลยพลาด กับการเสมอที่ยังตึงตรา เด็กหงส์ไปนานในนัดเจออาเซน่อล กับวีรบุรุษ อาชาวิน กับสี่ประตูของเขา

  • ฤดูกาล 2013/14 ลิเวอร์พูล ภายใต้การนำทีมของ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ทีมได้ทำประตูไปถึง 101 ประตู และยังเคยนำห่างอันดับสองถึง 8 แต้มในฤดูกาลนั้น แต่ด้วยปัญหาในเกมรับของที่ ที่เสียไปถึง 50 ประตูเลย ทำให้ทีมได้ พลาดไป พร้อมกับเกิดมีมสุดสยองของตำนานอย่าง สตีเว่น เจอราด ในนัดเจอเชลชีทีมสำรอง กับช็อตที่ลื่นจนโดน เดมบ้า บา ฉกไปยิงประตู จนกลายเป็นมีมในตำนานที่ตามหลอกหลอน เจอร์ราด

และ ล่าสุดเมื่อ ปีที่แล้ว กับการ เป็น รองแชมป์ที่มีแต้มเยอะที่สุกในประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก ที่ 97 แต้ม ภายใต้การคุมทีม ของ เจอเก้น คล็อป ต้องบอกว่าทีมแชมป์ในตอนนั้นอย่าง แมน ฯ ซิตี้ มาดีจริงๆ แม้ลิเวอร์พูลจะทำแต้ม นำได้ ตั้งแต่ช่วงต้นฤดูกาล สุดท้ายด้วยปัญหาแนวรับเหมือนเคยที่ ทำให้ทีมสะดุด พลาดเสมอไปเยอะ แม้จะแพ้เพียงแค่นัดเดียว และทาง แมน ฯ ซิตี้ อาศัยจังหวะที่ลิเวอร์พูล สะดุด โชว์เทพ แซงขึ้นไปเป็นจ่าฝูง แล้วยิงยาวไม่แพ้ใครจนจบฤดูกาลแบบชนิดแต้มห่างกับลิเวอร์พูลที่เป็นรองจ่าฝูงเพียงแค่ แต้มเดียวเท่านั้น

และนั้นเป็นอีกปี ที่ลิเวอร์พูล ได้รู้จักกับคำว่า ว่าวแชมป์ พรีเมียร์ลีกอีกครั้ง

และในที่สุด ฤดูกาล ปัจจุบัน ฤดูกาล 2019/2020 ลิเวอร์พูลภายใต้ การนำทัพของเจอร์เก้น คล็อปและลูกทีมที่เพิ่งได้กำลังใจที่ดีจากการคว้าแชมป์ ยูฟ่าแชมเปี่ยนลีก มาเมื่อฤดูกาลที่แล้ว และได้แสดงให้เห็นว่า พวกเขากระหายที่จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก จริงๆ ด้วยการที่ตั้งแต่เปิดฤดูกาลมา พวกเขาชนะรวด 17 นัด ลุ้นทำลายสถิติชนะรวด ของแมน ฯ ซิตี้ ที่ทำได้เมื่อฤดูกาลก่อนที่ 18 นัด ด้วยการสะดุดในนัดที่พบกับ แมน ฯ ยูไนเต็ด และมีแพ้อย่าง น่าตกใจในนัดที่ เจอ วัตฟอต กับความยอดเยี่ยม ของ คริสเตียนโน ลิโอเนล อิสไมล่า ซาร์ บวกกับช่วงก่อนหน้านี้ที่ เกิดวิกฤติ โควิด 19 ทำให้การแข่งขันได้หยุดไป หลายเดือน จนหลายคนคิดว่า หรือนี้คือสิ่งที่ ฟ้าสั่งให้มาขัดขวางการเป็น แชมป์สมัยแรกของลิเวอร์พูล

ยอมรับว่าแม้จะนำห่างขนาดนี้ และขอเพียงชนะ อีกแค่ 3 นัด ก็เป็นแชมป์ แต่ใจนึงแอบเผื่อใจไว้แล้ว ว่าอาจจะไม่ได้แชมป์เช่นกัน

จน เมื่อเหตุการณ์ โควิด 19 เริ่มดีขึ้นและ สามารถกลับมาเตะได้อีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นแบบ สนามปิด และ เพื่อความกังวลใจให้แฟนลิเวอร์พูลแบบ ผมอีกครั้งด้วยการ เสมอ เอเวอร์ตันทีม ร่วมเมืองไป แต่ด้วยสปิริต และความสนิทกัน และการแก้เกมส์ของ เจอร์เก้น คล็อปที่สามารถถ่ายทอดเข้าไปยัง นักเตะ ที่กระหายอยากคว้า แชมป์สมัยแรกมาให้กับทางสโมสร
ทำให้นัดถัดไปที่เจอ คริสตัล พาเลซ ลิเวอร์ พูล คืนฟอร์มโหดด้วยการ เฉือนชนะ ไปได้ที่ 4–0

ทำให้ช่องว่างการคว้าแชมป์ ลดลงเหลือแค่ชนะ อีกแค่ 1 นัดเท่านั้น บวก หรือ รอการแข่งขันในคู่ถัดไปที่ เชลชี พบ แมน ฯ ซิตี้ หาก แมน ฯ ซิตี้ ไม่สามารถชนะได้ เท่ากับว่า ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ทันที

และในที่สุด เช้าวันที่ 26 / 06 /2020 ฝันผมและแฟนบอลลิเวอร์พูลก็เป็นจริง เมื่อ เชลชี สามารถเอาชนะ แมน ฯ ซิตี้ไปได้ ที่ 2–1 ทำให้ลิเวอร์พูลสามารถ คว้าแชมป์สมัยแรกได้ทันที ทั้งๆ ที่เหลือการแข่งขันอีก 7 นัด นับเป็นการคว้าแชมป์ เร็วที่สุดในพรีเมียร์ลีก

เป็นอันว่า แชมป์แรกในรอบ 30 ปีที่รอมาอย่างยาวนาน ของลิเวอร์พูลได้จบลง ~

  • ภาพ วินาทีที่ นักเตะในทีม ร่วมกันชมนัดที่เชลชีชนะแมนซิตี้

“You will never walk alone”

--

--

Jaedsada Chaisorn

ปืน Web Dev พูดไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไร เขียนก็ไม่ได้เลยเช่นกัน